“อรุโณทัย” แสงแห่งอรุณ

ประวัติและความเป็นมา

     วัดอรุโณทัย เดิมอยู่ในพื้นที่เขตหมู่บ้านนาหวาย หมู่ที่ 3 ตำบลเมืองนะ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2513 - พ.ศ.2514 กองบัญชาการทหารสูงสุดได้ขอใช้พื้นที่ส่วนนี้จากกรมป่าไม้ เพื่อจัดเป็นพื้นที่รองรับอดีตทหารจีนคณะชาติ โดยให้ บก.04 เป็นหน่วยงานรับผิดชอบควบคุมในพื้นที่ และได้จัดตั้งเป็นหมู่บ้านอรุโณทัย หมู่ที่ 10 ตำบลเมืองนะ ในภายหลัง ซึ่งในปี พ.ศ. 2515 ทาง บก.04 โดย.................ได้อนุเคราะห์แบ่งอาณาเขตพื้นที่จัดตั้งวัดอรุโณทัยตามคำร้องขอของชาวบ้านที่เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาและมอบหมายให้นายพิชัย เจริญสุข นายกวงหยี แซ่จ้าว และชาวบ้านจำนวนหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างในขณะนั้นเบื้องต้นได้ก่อสร้างพระวิหาร 1 หลังเป็นตึกเดี่ยว 1 ชั้น 6 ห้อง เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางของชุมชนในด้านการพัฒนาจิตใจให้ราษฎรในหมู่บ้านดำรงตนเป็นคนดีของสังคมด้วยเหตุนี้ชาวบ้านอรุโณทัยและหมู่บ้านใกล้เคียงได้มาทำบุญประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดอรุโณทัยเป็นประจำ

     ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2525 บก.04 กองบัญชาการทหารสูงสุดเปลี่ยนชุดควบคุมเป็น ศอพป.ที่ 25 ปี พ.ศ.2527 เปลี่ยนชุดควบคุมเป็น ฉก.327 ปี พ.ศ.2531 ฉก.327 บก.ทหารสูงสุดได้มอบหมู่บ้านอรุโณทัยให้แก่กระทรวงมหาดไทยเพื่อจัดตั้งเป็นหมู่บ้านตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ.2427 บ้านอรุโณทัยจึงได้รับการแยกหมู่บ้านจาก หมู่ที่3 ตำบลเมืองนะ เป็นบ้านอรุโณทัย หมู่ที่10 ตำบลเมืองนะ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2531เป็นต้นมา ดังนั้นจากเหตุการณ์ต่างๆดังกล่าวจึงไม่ปรากฏหลักฐานการอนุเคราะห์ให้สร้างวัดอรุโณทัย มีเพียงซากอิฐซากเจดีย์เก่าและเมล็ดธาตุกระจัดกระจายอยู่บริเวณพื้นที่ด้านทิศตะวันตกของวัดซึ่งสันนิษฐานว่าเคยเป็นวัดที่เก่าแก่มาก่อน ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวได้มีการปลูกสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัยโดยชาวบ้านอรุโณทัย เนื่องจากสภาพพื้นที่วัดอรุโณทัยปัจจุบันตั้งอยู่บนเนินสูงกว่าบริเวณที่พบซากอิฐเก่าแก่ต่างๆเหล่านั้นจึงเหมาะสมเป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจของพระภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา มาจนถึงปัจจุบัน